วันที่ 2 ของการเที่ยวเล่นในโฮจิมินห์ เวียดนาม วันนี้เราจะไปตะลุยกินกัน จุดหมายหลักมีทั้งกาแฟไข่ กาแฟมะพร้าว โบสถ์สีชมพู Apartment Cafe อนุสาวรีย์ลุงโฮ

ร้านแรกของวันที่ 2 คือ Little Hanoi Egg Coffee กาแฟร้านดัง ออริจินัลจากฮานอย มาเปิดสาขาที่โฮจิมินห์ เป็นร้านที่คนรักกาแฟห้ามพลาด ส่วนใครไม่ดื่มกาแฟ ร้านนี้ก็มีโกโก้ ชาเขียว และอาหารเช้าสไตล์ฝรั่งขายด้วยนะ พวกแซนด์วิช ไข่คน ซุป แต่เราไม่ได้กินนะ เพราะเรามีอยากอื่นที่อยากกินมากกว่า!

อยากรู้ว่ากาแฟที่ Little Hanoi Egg Coffee ดียังไง อ่านเพิ่มได้ที่ลิงก์ >> Little Hanoi Egg Coffee กาแฟไข่ ชื่อดังจากฮอยอัน สาขาโฮจิมินห์

ที่แวะมาดื่มกาแฟก่อนก็เพราะว่าร้านกาแฟอยู่ใกล้ที่พักมากกว่าร้านอาหารมื้อหลัก เราก็เลยเดินไปดื่มกาแฟก่อนแล้วค่อยไปกินมื้อหลัก ก่อนจะไปเที่ยวเล่นทั้งวัน

อาหารจานหลักประจำวันนี้คือ….เฝอ!

ร้านที่จะไปในวันนี้คือ Phở Hoà Pasteur ติดอันดับร้านแนะนำจากมิชิลินไกด์ด้วยนะ อร่อยสมกับที่เขาแนะนำมั้ย คำตอบคือ…อร่อยยยยยย น้ำซุปกลมกล่อมแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลยละ ซึ่งเราจะบอกว่าเราปรุงเฝอไม่เป็น เคยต้องปรุงเองแต่ก็ไม่สำเร็จค่ะ กินไม่ได้เลย

แต่เฝอร้าน Phở Hoà Pasteur คือไม่ต้องปรุง จ้วงได้ทันที มีให้เลือกหลายอย่างด้วย เนื้อ ไก่ ปาท่องโก๋ ปอเปี๊ยะสด น้ำก็มีเลือกเยอะเลยด้วย เรียกว่าครบทุกอย่างที่ต้องการ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> กิน ‘เฝอ’ ในโฮจิมินห์ ต้องกินที่ร้าน Phở Hoà Pasteur

สถานที่ต่อไปคือ…​คาเฟ่อีกแล้วค่ะ จริง ๆ จุดมุ่งหมายของเราคือโบสถ์สีชมพู หรือชื่อจริงอย่างเป็นทางการก็คือ Tan Dinh Church (โบสถ์ทันดินห์) แต่พอไปถึงมันติดเที่ยงจ้า เข้าไม่ได้ ก็เลยข้ามถนนไปร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามแทน

วิธีไป Tan Dinh Church ก็คือเดินไปค่ะ ระยะทางจากร้าน Phở Hoà Pasteur ไปยังโบสถ์ประมาณ 500-600 เมตร ซึ่งมีทั้งทางเดินบนฟุตบาทติดถนนใหญ่กับซอกแซ็กเข้าไปในซอย และใช่ พวกเราเดินเข้าไปในซอย

ได้เห็นบ้านและการใช้ชีวิตสไตล์ชาวเวียดนาม บ้านในซอยเล็ก ไม่มีรถยนต์ มีแต่มอเตอร์ไซค์ ถนนสะอาด นาน ๆ ทีมีมอเตอร์ไซค์วิ่งเข้ามาในซอย อาจเพราะเป็นตอนกลางวันคนไปทำงานก็ได้ มันเลยไม่วุ่นวาย

โบสถ์ Tan Dinh ปิดพักเที่ยงเวลา 12.00-14.00 น. ดังนั้นเราเลยไปนั่งหลบร้อนที่คาเฟ่แถวนั้นก่อน

และหวยก็ออกที่ Cộng Cà Phê หรือ Cong Cafe คาเฟ่ชื่อดังที่มีสาขาทั่วเวียดนาม จุดเด่นของที่นี่คือร้านสีเขียว การตกแต่งสไตล์เวียดนามยุค 80 ซึ่งยังอยู่ในช่วงคอมมิวนิสต์ และพนักงานแต่งชุดสีเขียวแบบทหารเวียดนาม

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Cong Cafe กาแฟมะพร้าว กับวิว Tan Dinh Church โบสถ์สีชมพู ในโฮจิมินห์ เวียดนาม

กาแฟมะพร้าวปั่นอร่อยค่ะ สดชื่นเหมาะกับอากาศร้อนมาก ส่วนลาเต้ก็เข้มข้นดีนะ แต่ที่ดีสุดคือวิว มองเห็นโบสถ์ Tan Dinh Church จากที่ร้านเลย ชั้นสองมีบาร์ริมหน้าต่างเห็นโบสถ์ชัด ส่วนชั้นสามที่ระเบียงถ่ายรูปคู่โบสถ์ได้ แต่คนเยอะ เราเลยไม่ขึ้นไปค่ะ

ถ่ายโดย 94.xngunzz ขอบคุณน้องไว้ ณ ที่นี้นะคะ

เอาละ บ่ายสองแล้ว (14.00 น.) เข้าโบสถ์ Tan Dinh Church กัน แต่การเข้าไปก็คือเข้าไปในบริเวณรั้ว แต่ไม่ได้เข้าไปในตัวอาคารโบสถ์นะคะ

ขอบคุณภาพถ่ายโดย 94.xngunzz

ถ้าถามว่ามาโบสถ์ Tan Dinh Church แล้วได้อะไรบ้าง ก็ต้องตอบว่าได้ถ่ายรูปมุมนี้แหละค่ะ ฮิตสุด เท่านั้นเลย ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ค่ะ

ถ่ายรูปออกมาก็สวยดีนะ สีสันสดใสมาก เพิ่งทาสีใหม่แน่นอนค่ะ แอบเข้าไปดูใกล้ ๆ แล้ว สียังใหม่จริง ถ่ายรูปออกมาสวยจริง ไม่ผิดหวังแน่นอน!

จุดหมายปลายทางต่อไปก็คือโบสถ์เช่นกัน นั่นคือ Notre Dame Cathedral of Saigon อยู่ตรงเขต 1 ค่ะ วนกลับไปด้วย Grab เช่นเดิม

แต่ต้องบอกว่าตอนนี้โบสถ์ปิดปรับปรุงอยู่นะคะ คาดว่าจะเปิดได้อีกทีคือปี 2027 เลยค่ะคุณ แสดงว่าแบบนี้ต้องกลับมาอีกสินะ! อิอิ

แต่ว่าเราเคยมาที่โบสถ์ Notre Dame Cathedral of Saigon นี้แล้วเมื่อปี 2016 สวยงามมากจริง ๆ เห็นแล้วประทับใจมากเลยละ แล้วก็เข้าข้างในได้ด้วย ถ้ารีโนเวตเสร็จ มันต้องสวยมาก ๆ แน่

ว่าแต่ชาวเวียดนามเขาจะเท่กันทุกคนใช่มั้ยค้า ท่านั่งทำถึงมากค่ะคุณน้าาาา เท่ไม่แพ้คุณลุงหน้าร้านแหนมเนืองเลยอ่าาา~

เขต 1 บริเวณนี้เป็นจุดศูนย์รวมแหล่งท่องเที่ยวเลยค่ะ เพราะมี Saigon Central Post Office และ Book Street อยู่ด้วย แถมยังอยู่ห่างแค่ข้ามฝั่งถนนเอง

Saigon Central Post Office (Bưu điện Trung tâm Sài Gòn) หรือไปรษณีย์กลางไซ่ง่อน มีความสวยงามมาก นักท่องเที่ยวต้องแวะถ่ายรูป เพราะความโดดเด่นสะดุดตาด้วยตัวอาคารสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองขนาดใหญ่ เป็นที่ทำการไปรษณีย์ที่ยังคงเปิดใช้งานอยู่จริง จะเห็นได้ว่ามีนักท่องเที่ยวเดินเข้าไปชมด้านในตลอดเวลา

ผนังและเพดานของ Saigon Central Post Office สวยมาก ๆ ตามสไตล์โคโลเนียล มีจุดหนึ่งมีแผนที่เวียดนาดขนาดใหญ่แปะอยู่ด้วย

เมื่อเดินออกจาก Saigon Central Post Office แล้วก็ให้เลี้ยวขวาเดินไปนิดเดียวก็จะเจอกับ Ho Chi Minh City Book Street ที่อยู่ติดกันเลย!

Ho Chi Minh City Book Street คือถนนสายสั้น ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านขายหนังสือทั้งสองข้างทาง มีคาเฟ่ด้วยนะ หากร้อนก็แวะดื่มกาแฟเย็น ๆ ได้

หนังสือส่วนมากใน Ho Chi Minh City Book Street มีทั้งภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น และเวียดนาม มีทั้งมือหนึ่งและมือสอง ราคาก็ถูกมาก บางครั้งก็มีจัดแสดงนิทรรศกาลศิลปะด้วยนะ ที่สำคัญเลยก็คือถ่ายรูปสวยมากค่าาาา

เดินร้อนกันได้สักพักแล้ว เราไปต่อกันที่…Apartment Cafe กันดีกว่าค่ะ แน่นอนว่านั่ง Grab เช่นเดิม Grab ที่นี่ดีตรงถูกและไม่ต้องรอนาน ราคาถูกแบบถ้าวิ่งในเขต 1 กันเอง จะอยู่ที่ 60-70 บาทเท่านั้น!

Apartment Cafe คือตึกที่มีคาเฟ่อยู่เยอะ ๆ ร้านดัง ๆ ก็มี เช่น Arabica, Dosh ซึ่งจริง ๆ แล้วตึกนี้มันคืออพาร์ตเมนต์จริง ๆ นะคะ ตอนนี้ก็ยังเป็นอพาร์ตเมนต์อยู่นะ มีคนอาศัยอยู่จริง ๆ ไม่ใช่เอาทั้งตึกมาทำคาเฟ่

ตึกนี้มีลิฟต์บริการในราคา 5,000 VND กดไปได้เพียงชั้นเดียวนะ ถ้าคิดว่าจะไปชั้น 3 ออกไปเดินเล่นแล้วกับเข้าลิฟต์กดไปชั้น 5 ทำไม่ได้นะ เขาล็อกไว้ ชั้นอื่น ๆ กดไปชั้นอื่นไม่ได้ ยกเว้นกดลงชั้นล่างสุด ดังนั้นกดไปบนสุดแล้วค่อยเดินทางมาจะง่ายกว่า หรือใครจะเดินจากชั้นล่างสุดเลยก็ได้นะ

ถ้าถามว่าร้านนี้คือร้านอะไร บอกเลยว่าจำไม่ได้ เลือกเพราะไม่ใช่ร้านกาแฟ ราคาเครื่องดื่มอยู่ที่ 55,000-80,000 VND สดชื่นมากค่ะ มีเนื้อผลไม้ด้วย สิ่งที่แปลกสำหรับเราคือ Soursop Soda ซึ่งรสชาติไม่คุ้นเคยเลย เปรี้ยวไม่สุด แล้วก็เหมือนกินหน่อยหนา แต่เปรี้ยวอะ แต่คล้าย แต่ก็ไม่เหมือน สรุปคือบอกไม่ถูกค่า

เพื่อไม่ให้คาใจ เราก็เลยกูเกิลดู สรุปมันคือทุเรียนเทศ บอกเลยว่าไม่เคยกินมาก่อน!

อีกเหตุผลที่เลือกร้านนี้ก็คือ…อยู่ชั้นสูง อยากดูวิว และนี่คือวิวที่ว่า โล่ง สวย สะอาดตามาก มีสาวน้อยที่นั่งอยู่ตรงนั้นถามว่าจะถ่ายรูปกับวิวมั้ย เราขอบคุณแต่ไม่ถ่าย นี่คือสิ่งที่ชอบมากเลย นักท่องเที่ยวช่วยถ่ายรูปให้กัน

ลงมาด้านล่าง หน้าตึก Apartment Cafe ก็เจอสิ่งที่ตามหา พิซซาเวียดนามนั่นเอง ยังไม่พอจ้า ยังมียำพลาสติกด้วย อย่ารู้ละสิว่ามันคืออะไร เดี๋ยวอวดแน่นอน!

ถ้ามาถึงเวียดนาม ขอให้ลองพิซซาเวียดนาม ซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยละ มันคือแผ่นแป้งเวียดนาม ใส่ไข่ เนย ชีส ไข่นกกระทา หอมเจียว (ใช่มั้ยนะ) ต้นหอม กุ้งแห้ง หมูหยอง และน่าจะมีอย่างอื่นด้วย แต่เดาไม่ออก

เขาจะปิ้งจนแผ่นแป้งเวียดนามกรอบกรุบ ไส้จะนุ่ม ๆ ออกหวาน มีความฉ่ำ ไม่แห้ง ไม่ติดคอนะ กินเล่นได้สบายเลย จำราคาไม่ได้ น่าจะ 20,000 VND (28 บาท)

ส่วนอันนี้คือ ยำพลาสติก!! มันไม่ใช่พลาสติกหรอกนะคะ เป็นแผ่นแป้งใสแจ๋ว แข็งและเหนียวหนึบเหมือนพลาสติก คนไทยก็เลยเรียกกันว่ายำพลาสติก และใช่ เขาใส่ถุงพลาสติกหูหิ้วซ้อนสองชั้นให้นะคะ พร้อมตะเกียบ ราคา 20,000 VND

เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่จริงจัง เราเลยหาข้อมูลเพิ่มค่ะ (หาตอนเขียนบล็อกนี่แหละค่ะ)​ จริง ๆ แล้วยำพลาสติกมีชื่อว่า Bánh Tráng Trộn (บั๊นจร้างโจร่น) หรือยำใบเมี่ยงญวน ซึ่งใบเมี่ยงญวณคือแผ่นแป้งเวียดนามที่เราเอามาห่อสลัดห่อแหนมเนือง นำมาตัดเป็นเส้น ๆ แล้วเอามายำ ๆ เป็นเมนูกินเล่นที่คนเวียดนามชอบ สาวออฟฟิศกินเป็นอาหารว่างมื้อบ่าย ของกินเล่นหลังเลิกเรียน

อยากรู้รสชาติกันแล้วใช่มั้ยล่ะ ยำพลาสติกเนี่ย…รสชาติเหมือน…ยำแหนมทอกบ้านเราค่ะ ใส่แป้งที่ตัดเป็นเส้น ๆ พริก ถั่ว ขิง กุ้ง หอมเจียว ผักแพว มะม่วงเปรี้ยว ปรุงรสให้แซบ ๆ และก็ใส่ไข่นกกระทาต้มมาด้วย ใช่ค่ะ รสชาติเหมือนยำแหนมทอดค่ะ อร่อยมากอะ สดชื่นมาก แป้งไม่เหนียว ไม่บาดปากนะ พอเข้าปากสักพักมันจะนุ่มลง แค่ต้องเคี้ยวนานหน่อยเท่านั้นเอง ลองเถอะ เริดนะ

ตรงนี้คือลานหน้า Apartment Cafe เป็นพื้นที่โล่งให้ทำกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ เช่น วันตรุษเวียดนาม ส่วนวันธรรมดาก็จะเป็นเหมือนพื้นที่สาธารณะ มีคนมาเดินเล่น ถ่ายรูป เล่นสเกตบอร์ด หรือไม่ก็แค่นั่งชิล ๆ ตรงเก้าอี้ที่ตั้งอยู่รอบ ๆ พื้นที่ ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั่น นั่งกินพิซซาเวียดนามกับยำพลาสติกแสนอร่อย

ทุกคนเห็นมั้ยคะว่าสุดฝั่งแต่ละด้านของพื้นที่โล่งมีอะไร ฝั่งหนึ่งคือแม่น้ำกว้าง ไกลมาก ดูไม่ออกหรอกค่ะ และเราก็ไม่ได้เดินไปทางนั้นด้วย ส่วนอีกด้านจะเป็นอนุสาวรีย์ลุงโฮ ซึ่งเราจะเดินไปทางนั้นกัน

ระหว่างที่เดินไปก็จะเจอกับวงเวียนซึ่งตรงกลางมีน้ำพุและดอกบัวซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของเวียดนาม รถมอเตอร์ไซค์เยอะมาก ตรงนี้ถ่ายรูปสวยน้า

เดินต่อมาอีกนิดหนึ่งจะเจอกับอนุสาวรีย์ลุงโฮ ชื่อจริง ๆ คืออนุสาวรีย์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Monument) ตั้งอยู่ด้านหน้าสภาประชาชน และสวนสวย ๆ รอบด้านมีชื่อว่าจัตุรัสโฮจิมินห์ ตึกข้าง ๆ เป็นโรงแรมหรูบรรยากาศยุโรป สวยมาก ควรมาถ่ายรูปนะ จะถ่ายรูปกับลุงโฮ สวน หรือตึกก็สวยทั้งนั้น

เกร็ดความรู้ มาพูดถึงลุงโฮจิมินห์กันค่ะ คุณลุงโฮคือบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ นักปฏิวัติ ผู้กอบกู้อิสรภาพให้กับเวียดนาม และได้กลายมาเป็นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีของเวียดนาม หลังสงครามเวียดนามสิ้นสุดลง เมืองหลวงของเวียดนามใต้จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นนครโฮจิมินห์เพื่อเป็นเกียรติให้ลุงโฮ

แนะนำให้มาที่อนุสาวรีย์โฮจิมินห์ช่วงพระอาทิตย์ตกดินนะ ท้องฟ้าสีสวยมาก ภาพนี้ไม่ได้ปรับสีนะ ถ่ายห่างจากภาพบน 5-10 นาทีเท่านั้น มันคุ้มมากอะ ไปเถอะ รอเถอะนะ

จากนั้นเราก็เดินเล่นแบบไร้จุดหมาย พอเริ่มหิวก็กูเกิลหา Street Food คือในหัวอยากไปตลาดบ้าน ๆ แต่สิ่งที่ได้มาคือตลาดหรูละกัน เพราะ Ben Nghe Street Food Market ตลาดสตรีตฟู้ดแห่งนี้มีความอินเตอร์ มีความนานาชาติ และราคาค่อนข้างสูง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >> แวะกินข้าวเย็นที่ Ben Nghe Street Food Market รวมร้านอาหารนานาชาติ (เขต 1 โฮจิมินห์ เวียดนาม)

แต่ถ้าถามว่าอาหารอร่อยมั้ย ก็บอกเลยว่าอร่อยยยย คุ้มค่าคุ้มราคา สะอาด และห้องน้ำติดแอร์ (ฮาาาา)​ เพียงแต่เราอยากได้สตรีตฟู้ดบ้าน ๆ อะ อยากกินอาหารเวียดนามในตลาดที่ชาวเวียดนามโลคัลเขากินกัน คงต้องกลับไปซ้ำสักวัน!

โฮจิมินห์ Day 2 ก็จบที่ร้านนี้แหละ จากนั้นก็กลับห้องอาบน้ำ ดูยูทูปแล้วก็เข้านอน พรุ่งนี้พบกันใหม่กับเวียดนาม Day 3 เราจะไปไหนบ้าง ต้องมาลุ้นกันน้าาาา~

อ่านคุณยังไม่ได้อ่านการผจญภัยในวันแรกของเรา คลิกเข้าไปอ่านได้ที่นี่ >>>> โฮจิมินห์ Day 1

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

<a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>