ไปเที่ยวโฮจิมินห์ เวียดนามกัน บินชั่วโมงกว่า เข้าที่พักราคาประหยัด ไปกินพิซซ่าร้านดัง ตามด้วยแหนมเนือง ของกินอร่อยมากกกกก ราคาก็ไม่แพง กับการผจญภัยวันแรก เที่ยวชิล ๆ

ข้อควรรู้เกี่ยวกับ​โฮจิมินห์และเวียดนาม

  • คนไทยได้รับสิทธิ์ฟรีวีซ่า เข้าเวียดนามได้ 30 วัน โดยใช้เพียงพาสปอร์ต
  • ค่าเงินเวียดนามคือ ‘ดอง’ โดย 1,000 ดอง = 1.5 บาท โดยประมาณ
  • โฮจิมินห์ไม่ใช่เมืองหลวงของเวียดนาม เมืองหลวงของเวียดนามคือ ‘ฮานอย’ ต่างหากละ
  • นั่ง Grab สบาย ราคาถูก ตัดบัตรได้ ใช้แอปตัวเดียวกับไทย ไม่ต้องดาวน์โหลดใหม่ เจอแต่รถดี ๆ คันใหญ่และใหม่ เจอรถเก๋งไซซ์ปกติแค่ 2-3 คันเอง
  • ใช้เงินสดเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นร้านอาหารใหญ่ ๆ
  • ระวังเรื่องแบงก์ เพราะแบงก์ 500,000 กับ 10,000 สีออกน้ำเงินคล้ายกันมาก เกือบหยิบผิดหลายรอบแล้ว
  • โฮจิมินห์อยู่ในเวียดนามใต้ เวลาเท่ากับไทย และร้อนเหมือนไทย
  • การข้ามถนน หากไฟคนข้ามเขียวแล้ว สามารถข้ามถนนได้เลย เดี๋ยวรถจะหลบเราเอง ถ้าไม่มีไฟ ก็ค่อย ๆ เดินข้ามได้เลย ห้ามหยุดหรือลังเลนะ
  • ชื่อเดิมของโฮจิมินห์คือ ไซง่อน จึงจะยังเห็นบางแห่ง บางร้านใช้ชื่อไซง่อนอยู่
  • แนะนำให้พักที่ District 1 (เขต 1) ไปแหล่งท่องเที่ยวได้ง่าย คนเขตนี้พูดภาษาอังกฤษได้เยอะกว่าเขตอื่น
  • โอจิมินห์ค่อยข้างวุ่นวาย เหมือนกับกทม. รถมอเตอร์ไซค์เยอะ ถ้าชอบความเงียบ เมืองนี้อาจไม่เหมาะ
  • ผังเมืองดี เพราะเคยอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส ผังเมืองเลยค่อนข้างดี เป็นกริด (Grid) เดินทะลุถึงกันได้ง่าย โดยเฉพาะกลางเมือง เดินสบาย
  • ต้นไม้ในเมืองค่อนข้างเยอะ สูงและใหญ่มากกกกกกกกก มีสวนสาธารณะเยอะมากด้วย อิจฉามาก
  • บินไปโฮจิมินห์จากดอนเมือง ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง เท่านั้น

โฮจิมินห์ เวียดนาม: Day 1 เดินทางเช้า ง่วง เช็กอิน กินพิซซา หลับ วาร์ปอีกทีก็ไปมื้อเย็น!

เอาละ กลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่า

เวียดนาม วันแรก องุ่นเริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง โดยสายการบินแอร์เอเชีย ได้ตั๋วโปร 0 บาทมาค่ะ สรุปรวมแล้วค่าตั๋วเครื่องบินประมาณ 2,800 บาท ไม่เลือกที่นั่ง ไม่โหลดกระเป๋าค่ะ แน่นอนว่ากดจองตั้งแต่กลางปีแล้วรอบินต้นปีหน้า ราคาถึงได้ถู้กถูกขนาดนี้!

ตอนจองนี่คือบินไฟลต์เช้าเลย 7:40 เพราะคิดว่าไปถึงจะไปเที่ยวนิดหน่อยแล้วไปดาลัดกับมุยเน่ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนแผนนิดหน่อย เพราะช่วงปลายปีชีวิตมีเรื่องวุ่นมากมาย เลยอยากไปชิลล์ ๆ ไม่อยากวางแผนอะไรแล้ว ก็เลยตัดสินใจว่าจะอยู่ในเมืองโฮจิมินห์ยาว ๆ ตลอด 5 วัน กิน เที่ยว และนอนเท่านั้น!

เมื่อถึงสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (SGN) หรือ Tan Son Nhat Airport แล้ว ผ่านตม.มาแล้ว ขอบอกว่าแถวตม.ยาวมาก นักท่องเที่ยวเยอะเลย แต่ว่าใช้เวลาไม่นานก็ผ่านตม.มาได้ค่ะ ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเลยค่ะ ถอดหน้ากาก เช็กใบหน้าว่าตรงกับพาสปอร์ต ตม.ก็สแตมป์ให้ค่ะ

วันนี้องุ่นจะเข้าเมืองโฮจิมินห์ด้วยรสบัสกันค่ะ พออกจากประตูให้ข้ามถนนมาเลย แล้วเดินไปทางขวามืออีกนิดหนึ่งก็จะเห็นแถวรสเมล์จอดเรียงอยู่ สีน้ำเงินเห็นชัดเจน เมื่อมองกลับไปจากฝั่งแถวรถเมล์ก็จะเห็นตัวสนามบินแบบในรูปด้านบนนะคะ

ค่าตั๋วรถเมล์สาย 152 เข้าเมืองโฮจิมินห์ราคา 5,000 ดอง ต่อคน แต่องุ่นต้องจ่ายเพิ่มอีก 1 ที่นั่ง สำหรับกระเป๋าเดินทางล้อลาก (ขนาด 22 นิ้ว ซึ่งใช้ถือขึ้นเครื่อง) เพราะมันใหญ่ ต้องวางบนพื้น กินที่เยอะ เลยต้องจ่ายเพิ่ม แต่น้องที่ไปด้วยใช้เป้แบ็กแพ็กไม่ได้จ่ายเพิ่มค่ะ

งงมั้ยว่าทำไมไม่ขึ้นคันข้างหน้า คือเดินไปแล้ว เห็นคนขับนอนหลับอยู่ในรถ เลยก็เลยเกรงใจเขา ไม่อยากปลุก เลยเดินมาขึ้นคันที่สอง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวนั่งรออยู่ในรถแล้วเหมือนกัน น่าจะเกรงใจพี่คันแรกเขาเหมือนกันแหละ

ไม่ต้องห่วงว่าจะลงรถเมล์ผิดนะคะ ถามกระเป๋ารถเมล์ได้ว่าต้องลงป้ายไหน เอาที่อยู่โรงแรมให้ดูก็ได้ค่ะ ซึ่งส่วนมากนักท่องเที่ยวจะลงใกล้ ๆ กับตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) หรือจะเปิด Google Maps ดูเส้นทางไปด้วยก็ได้ เลือกรถเมล์ แล้วคุณจะเห็นตำแหน่งของป้ายรถเมล์ที่ต้องลง และเห็นรถแบบ Real time ด้วย ไม่หลงแน่นอน

รูปจาก Agoda
รูปจาก Aogoda.com – 9 Hostel and Suites

ที่พักครั้งนี้คือ 9 Hostel and Suites ค่ะ ตั้งอยู่ใน District 1 อยู่ติดถนนใหญ่ จึงสะดวกมาก ๆ เมื่อต้องเรียก Grab มารับ จอดข้างหน้าโฮสเทลได้เลย

ยังไม่พอค่ะ เพราะ 9 Hostel and Suites ยังอยู่ใกล้ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) ชนิดที่ว่าเดินก็ถึง ใกล้ KFC ใกล้ Ho Chi Minh City Museum of Fine Arts ด้วย และมี Family Mart อยู่ฝั่งตรงข้าม เพียงข้ามถนนแล้วเดินตัดสวนสาธารณะไปนิดหนึ่งเท่านั้น

ที่พักใหม่ สะอาด เพิ่งรีโนเวต มีลิฟต์ แม้ลิฟต์จะช้าก็เถอะ แต่ให้อภัยเพราะลิฟต์ใหม่ เราอยู่ชั้น 4 ค่ะ ส่วนตัว เพราะส่วนที่เป็นเตียงโฮเทลจะอยู่ชั้นล่างและมีประตูแยกให้ต่างหาก ประตูอยู่เลยลิฟต์ไป และปิดสนิทอยู่ตลอดเวลา สามารถฝากกระเป๋าได้ มีเครื่องชั่งน้ำหนักให้เช็กด้วยนะว่าคุณจะแบกน้ำหนักเกินจะหิ้วกระเป๋าขึ้นเครื่องหรือเปล่าด้วยนะ แน่นอนว่าดิฉันเกินตั้งแต่มา!!!

พิกัดที่พัก 9 Hostel and Suites

รูปจาก Aogoda.com – 9 Hostel and Suites

องุ่นไปกับน้องอีกสองคน รวมเป็นสาม จึงจองห้องแบบ Twim Room with Private Bathroom เป็นห้องสำหรับ 4 คน เตียงน่าจะขนาด 4-5 ฟุตสำหรับนอนสองคน จำนวน 2 เตียง แน่นอนว่าดินฉันครองเตียงคนเดียวเลย!

ถึงแม้ที่นี่จะเป็น Hostel แต่ก็มีห้องส่วนตัวพร้อมห้องน้ำให้เลือก และห้องน้ำก็ถือว่าใหญ่เลย มีแปรงสีฟันยาสีฟัน ไดร์เป่าผม และผ้าเช็ดตัว และน้ำเปล่าให้ ให้แม่บ้านมาทำความสะอาดได้ทุกวัน

เล่าซะยาว แต่ลืมถ่ายรูปในห้อง!!! ขอเอารูปจาก รูปจาก Aogoda.com – 9 Hostel and Suites มาแปะให้ดูนะคะ

ราคาที่พัก 4 คืน ได้มาในราคา 2,965,140 ดอง หรือประมาณ 4,3xx บาท เฉลี่ยก็คืนละ พันนิด ๆ

อ่านรีวิวร้าน Pizza 4P’s แบบเต็มได้ที่ Pizza 4P’s พิซซ่าร้านดังของเวียดนาม​ (Ho Chi Minh) ที่ต้องแวะ!

หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่โฮสเทลแล้ว เราก็เดินทางไปหามื้อเที่ยงกินกันค่ะ มื้อแรกก็ขอประเดิมด้วยเมนูพิซซ่าเจ้าดัง Pizza 4P’s ซึ่งมีให้เลือกหลายสาขา และองุ่นก็เลือกสาขาตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) เดินจากที่พักไปนิดเดียว

ถ้าใครไปช่วงเที่ยง แนะนำให้จองไปก่อนนะ โต๊ะอาจจะไม่พอ เพราะนี่ไปตอนสิบโมงกว่าแบบไม่จอง พนักงานบอกว่าสามารถนั่งได้ถึงเที่ยงครึ่งเพราะมีคนจองโต๊ะเวลานั้นไว้ ถามว่ากินทันมั้ย ก็ต้องทันสิ ก็คนมันหิวนี่น่า หิวมากกกกกกกกกก

พูดถึงร้าน Pizza 4P’s บ้างดีกว่า ร้านนี้ดังมากนะคะคุณ อารมณ์แบบคนท้องถิ่นต้องมา นักท่องเที่ยวห้ามพลาด! จุดเด่นของร้านนี้คือก็พิซซ่าโฮมเมดสไตล์อิตาลี มีเตาขนาดยักษ์ตั้งอยู่กลางร้าน พร้อมโชว์การทำให้เห็นจะจะไปเลย และอีกอย่างที่เด็ดมากก็คือร้านนี้เขาทำชีสเองนะคะคุณ

บรรยากาศของร้าน Pizza 4P’s ดีมากค่ะ ตกแต่งได้ร่วมสมัยแต่อบอุ่นด้วยผนังอิฐเปลือย โต๊ะเก้าอี้ไม้แท้ตัวใหญ่ ๆ นั่งสบาย พนักงานเยอะ บริการดีและรวดเร็ว

พิกัด Pizza 4P’s สาขา Ben Thanh Market

พาวาร์ปไปมื้อเย็นเลย!! เพราะอะไรน่ะเหรอ เราพวกเรากลับไปนอนโรงแรมน่ะสิ ก็มันทั้งง่วงและร้อนนี่นา ตื่นเช้าไปเยอะเลย ดังนั้นต้องกลับไปชาร์จพลังที่โรงแรม บอกเลยว่าเตียงนอนสบายมากกก แอร์ฉ่ำสะใจ รู้ตัวอีกทีก็เกือบทุ่มจ้า ตื่นเพราะหิวแน่ ๆ

พอตื่นปุ๊บก็ต้องหิวปั๊บ​ (อีกแล้ว) ค่ำนี้เรามีร้านในใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะไปกินแหนมเนืองกัน ที่ Nem Nướng Nia ซึ่งอยู่ในเขต 4 ถามว่าไกลไม่ บอกเลยว่า….ไม่รู้ววววว เพราะหนูนั่ง Grab แป๊บเดียวถึง หยอก ๆ

ถึงจะบอกว่าเขต 4 แต่นั่งรถจาก Cafe Apartment ประมาณ 5 นาทีเอง ซึ่งเขตนี้จะเงียบกว่าเขต 1 โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน เพราะร้านต่าง ๆ ปิดหมด ส่วนร้านนักท่องเที่ยวก็ไม่ได้อยู่ในย่านนี้สักเท่าไร

แม้ไม่ได้อยู่ในเขต 1 แต่บอกเลยว่าคุณต้องมา!!!! คุณต้องมากินแหนมเนืองต้นตำหรับ ที่เวียดนามจริง ๆ สิ ไม่งั้นจะเหมือนมาไม่ถึงเวียดนาม จริงมั้ย!!!

Nem Nướng Nia เป็นร้านแบบโลคัล โลคัลชนิดที่เมนูไม่มีภาษาอังกฤษ แต่ถ้าเราสั่งมากินได้ คุณก็สั่งมากินได้เช่นกัน ไม่ยากหร้อกกกก พนักงานที่นี่ตั้งใจบริการมากแม้ว่าจะคุยกันไม่รู้เรื่องก็ตาม มือถือช่วยคุณได้ค่ะ เชื่อเรา!

พนักงานบริการดีมากขนาดมาห่อแหนมเนืองโชว์ให้เราค่ะ ว่าต้องทำยังไงบ้าง วางผักอะไรบ้าง ใส่ไส้อะไรบ้าง ม้วนยังไง และจิ้มยังไง

อ่านบทความรีวิวร้านนี้เต็ม ๆ แบบจุใจได้ที่ >> Nem Nướng Nia แหนมเนืองแท้ ณ​ โฮจิมินห์ ร้านท้องถิ่น ผักเยอะ ราคาดี <<

แหนมเนืองที่นี่ไม่ได้เหมือนที่ไทย 100% นะคะ เริ่มจากผักที่ต่างกัน อาจเป็นเพราะคนละพื้นที่ เลยมีผักท้องถิ่นที่ต่างกัน น้ำจิ้มที่รสชาติไม่เหมือนกัน เป็นสีเหลือง นัว ๆ ไม่หวาน ไม่เค็ม ส่วนที่ต่างแน่นอนก็คือแผ่นแป้ง แผ่นแป้งที่นี่จะบาง เหนียว แต่มีความยืดหยุ่นดี ม้วนห่อได้เลย ไม่ขาด ไม่หัก เพราะที่นี่เขาไม่แช่แผ่นแป้งกันค่ะ

เรานั่ง Grab กันไป เรียกแบบธรรมดา ได้รถนั่งสบายมากเลยค่ะ ราคาไม่แพง น่าจะไม่เกิน 50 บาท ดีงาม! อย่าลืมกดโคดส่วนลดนะ ถ้านั่ง Grab Car ตัดบัตรเครดิตได้เลย แต่ถ้าเป็น Grab Bike ต้องจ่ายเงินสด ใช้แอป Grab เดียวกับของไทยได้เลยค่ะ ไม่ต้องดาวน์โหลดใหม่ สบ๊ายยย!

บรรยากาศบริเวณแยกใกล้กับ Saigon Centre

อย่าเพิ่งคิดว่าเรากินมื้อเย็นเสร็จแล้วจะตรงดิ่งกลับโรงแรมนะ เราจะไปกันต่อที่ Annam Gourmet กัน เป็นซูเปอร์มาร์เกตแบบหรูหน่อย ขายของนำเข้า อารมณ์แบบวิลลามาร์เกตบ้านเราค่ะ

Annam Gourmet ตั้งอยู่ใน Saigon Centre ซึ่งมีห้างญี่ปุ่นอย่าง Takashimaya อยู่ด้วย ห้างญี่ปุ่นแบบเดียวกับที่มีใน ICONSiam นั่นแหละค่ะ

พิกัด Google Maps กดตามได้เลย > Annam Gourmet – Saigon Centre

เราแวะซื้อน้ำเก๊กฮวยมีฟอง น้ำผลไม้ ขนม และชีสวัวแดง The Laughing Cow ซึ่งบอกเลยว่าทุกอย่างถูกมากอะ Hogaaden ขวดเล็ก 20,000 VND เอง ส่วนอีกขวดอยู่ที่ 32,000 VND ส่วนน้ำผลไม้นำเข้าจากเกาหลีก็ถูกมาก 20,000-24,000 VND ส่วนชีสวัวแดงราคา 45,000 VND

ถ้าใครไป อย่าลืมเอาถุงผ้าไปด้วยนะ ไม่งั้นต้องเสียเงินซื้อ 8,000 VND แบบเรา เขาบังคับซื้อเหรอ? เปล๊า ดิฉันซื้อของเยอะไปหน่อยยยยยย แบกกลับม่ายหวายยยยยย~

เพราะอยู่ในห้าง Takashimaya ก็เลยแวะซื้ออาหารญี่ปุ่นแบบกล่องกลับบ้านสักหน่อย ราคา 189,000 VND หน้าตาและราคาไม่ต่างจากที่ไทยเท่าไรค่ะ

ชีสวัวแดง หรือ The Laughing Cow เนี่ยคือของที่ต้องซื้อเลยนะ เอามากินเล่นอร่อยมาก เบา ๆ ไลต์ ๆ รสชาติเหมือนครีมชีส แต่ว่าสัมผัสนุ่มและเป็นก้อนมากกว่า ไม่แข็งหรือยืดเท่าชีสมอสซาเรลลานะ ตัวชีสเป็นก้อนสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แกะง่าย กินหมดไว ฮาาาา ที่บอกว่าต้องซื้อก็เพราะว่ามันถูกค่า อย่างที่บอกไปแล้วว่าแค่ 45,000 VND เท่านั้น อยู่ไทยก็ประมาณ 200 นะเธอ

ดึกแล้วทำไมไม่นอน! เพราะเราหิวอีกแล้ว ผ่านไปชั่วโมงกว่าก็หิวอีก เลย Google หา Walking Street ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักมาก เดินข้ามถนน ข้ามสวนไปก็เจอแล้ว

แต่ว่า…มันเป็น Walking Street คนละแบบกับที่เราคิดน่ะสิ มันข้าวสารบ้านเราชัด ๆ คนเยอะ นักท่องราตรีต้องชอบ ตามผับก็จะมีสาว ๆ มายืนเต้นโชว์อยู่หน้าร้าน แต่ตัวน่ารักแบบแฟชั่นนะคะ ไม่ใช่แนวเซ็กซี่เอกซ์ ๆ

แต่สิ่งที่ชอบเลยก็คืออะไรรู้มั้ย แสงเลเซอร์เขาเนี่ยมีเกือบทุกร้าน แล้วก็เปิดสาดมายังถนนที่เราเดินกันอยู่ เข้าตาจนเวียนหัว เพราะงั้นหนีกลับโรงแรมกันเถอะค่ะ

เจอเซเวนเวียดนาม ขอแวะหน่อย ประทับใจเครื่องดื่มแก้วยักษ์ใบนี้มาก น่าจะเป็นน้ำมะปี๊บหรือน้ำส้มจี๊ดค่ะ ใหญ่แบบ 1 ลิตร แต่เราไม่ได้ซื้อนะ ไม่ไหวจะดื่มจริง ๆ ห้าทุ่มกว่าแล้ว

ยังไม่ทันข้ามถนนก็เจอกับร้านขาย ‘บั๋นหมี่’ หรือแซนด์วิชเวียดนาม ดักอยู่หน้าปากซอย ย่างหมูควันฉุยมากกกกกก แบบนี้ก็แพ้น่ะสิ สั่งไป 1 ชิ้น ช่วยกันชิม 3 คน อร่อยนะว่าไม่ได้ โดยเฉพาะหมูย่างคือดีมากกกกก ดีขนาดที่ว่าต้องกลับมาอีกวันหลัง

ไฟนัลลี หมดวันแล้ว สักที กลับโรงแรมนอนแล้วค่ะ เจอกัน EP ถัดไป กับ ‘เวียดนาม Day 2’ นะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

<a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>