ไปกินเนื้อย่างกัน กับร้าน Yakiniku Like Thailand เนื้อย่างแบบ A la carte ที่มีโต๊ะสำหรับลูกค้าไปคนเดียว อิ่ม อร่อย คุ้ม!
แอบให้ดูเนื้อก่อนเลย ย่างร้อน ๆ น้ำมันเดือดปุด ๆ น่ากินใช่มั้ยล่าาาาาาาาาาาา
Yakiniku Like Thailand ขายเนื้อเป็นแบบ A la carte หรือก็คือสั่งเป็นจาน ไม่ใช่บุฟเฟต์นะคะ ราคาเนื้อเริ่มต้นที่ 100 กว่าบาทต่อจาน หรือจะสั่งเป็นเซตก็ได้
เมื่อมาถึง พนักงานก็จะวางเมนูให้เลือกแบบนี้เลยค่ะ แต่ว่าวิธีสั่งจะต้องสแกน QR code ที่พนักงานจะนำมาให้อีกครั้งค่ะ
บิลด้านขาวคือหน้าตาของ QR code ที่ต้องสแกนนะคะ สแกนแล้วก็กดสั่งได้เลย พอกดสั่งแล้วเขาก็จะมาเสิร์ฟพร้อมกับบิลด้านซ้ายซึ่งจะระบุสิ่งที่คุณสั่งค่ะ เดี๋ยวจะอธิบายอีกทีว่าองุ่นสั่งอะไรบ้างนะคะ
ระหว่างรอเนื้อออออ เรามาดูบรรยากาศกันค่ะ ร้าน Yakiniku Like Thailand มีให้เลือก 2 โซนนะคะ เป็นเคาน์เตอร์บาร์สำหรับนั่งคนเดียว และเป็นโต๊ะสำหรับมาเป็นกลุ่ม 4 คน 2 เตา
แน่นอนว่าองุ่นเลือกนั่งคนเดียว เพราะมาคนเดียว ซึ่งเวลาที่มาเป็นช่วงกลางวันวันธรรมดา คนเลยโล่งร้าน ไม่มีคิว
บนโต๊ะจะมีช่องเจาะสำหรับเตา และช่องวางถาดอาหารนะคะ ส่วนพวกน้ำจิ้มจะอยู่ตรงกลางระหว่างสองที่นั่งค่ะ
สักพักพนักงานจะนำอุปกรณ์สำหรับรบมาให้ค่ะ มีช้อน ตะเกือบ ที่คีบ และทิชชู มาในถาดแบบนี้เลย
เนื้อมาเสิร์ฟแล้ว! องุ่นสั่งเซตเนื้อคารูบิ 200 กรัมค่ะ ราคา 259 บาท ซึ่งในเชตก็จะมีข้าวญี่ปุ่นให้เลือกตั้งแต่ 100, 200 และ 300 กรัม ซุป และสลัดผัก ไม่รวมเครื่องดื่ม
เสียดายนิดหนึ่งที่ตัวเองเลือกข้าวแค่ 200 กรัม คิดว่าตัวเองไม่ค่อยหิว แต่กลายเป็นว่าหิว! อยากกินข้าวอีก ดังนั้นถ้าใครหิวก็สั่งแบบ 300 กรัมไปเลย! เพราะราคามันรวมอยู่ในเซตแต่แรกแล้ว
ซูมเนื้อให้เห็นกันชัด ๆ จานนี้ 200 กรัมเหนาะ ๆ กินคนเดียวก็สะใจอยู่นะ ปกติกินแต่บุฟเฟต์ พอกินแบบสั่งเป็นจานเลยไม่ชิน แต่องุ่นว่าก็เยอะอยู่สำหรับหนึ่งมื้อค่ะ
สำหรับชุดเชตเนื้อคารูบิมีให้เลือกตั้งแต่ 100 กรัม ราคาเริ่มที่ 169 บาท ส่วน 300 กรัมอยู่ที่ 335 บาทค่ะ แต่ถ้าสั่งเฉพาะเนื้อเพิ่มก็ทำได้เช่นกัน เริ่มที่ 100 กรัม 95 บาทแล้วแต่ประเภทเนื้อค่ะ
เอาละ มาย่างเนื้อกันนน คีบลงไปวางสวย ๆ เลย เตาที่ไม่ใหญ่มากนะคะ วางได้สามสี่ชิ้นก็เต็มพื้นที่แล้ว เพราะว่าเตาเขาออกแบบสำหรับ 1 คน แต่บอกเลยว่าไฟแร๊งแรง แป๊บเดียวสุก ดังนั้นไม่ต้องห่วงเลยยยย
แถมที่ร้าน Yakiniku Like Thailand ยังมีจุดเด่นที่ระบบระบายอากาศ เขาเลือกใช้เตาย่างไร้ควันที่ดูดอากาศทุกสองนาทีครึ่ง เสริมทัพด้วยระบบฟอกอากาศในร้านอีก ดังนั้นกลิ่นย่างเนื้อก็เลยไม่ติดตัวเราค่ะ
แต่ถ้าถามว่ามันติดจริงมั้ย ดิฉันก็ไม่รู้วววว ไม่มีคนดมให้อ่าาาา ส่วนจะดมเองก็บอกไม่ได้อีก เพราะกินเองได้กลิ่นเองงง ฮาาาา
เครื่องดื่มมีให้สั่งแยกนะคะ แน่นอนว่ากินเนื้อย่างแบบนี้ก็ต้องน้ำอัดลมใช่มั้ยล่ะ งั้นจัดมา 1 ขวด แล้วก็ขอพริกและกระเทียมสับมาเสริมความเผ็ดตัดความเลี่ยนซะเลย
ย่าง ๆ ไปเริ่มกินไม่ทันค่ะ งั้นปรับระดับความร้อนเตาย่างสักหน่อย ปุ่มเพิ่มลดระดับจะอยู่ตรงขอบโต๊ะค่ะ
มาดูน้ำจิ้มกันบ้างดีกว่าค่ะ ที่ Yakiniku Like Thailand มีน้ำจิ้ม 4 แบบ คือ
- Like Original BBQ เป็นออริจินัลของทางร้าน หวาน ๆ เค็ม ๆ
- Sea Salt เค็มนิด ๆ แต่ไม่ได้เค็มจนไตสั่นนะคะ
- Spicy Miso ถึงจะบอกว่าเผ็ด แต่มันไม่ได้เผ็ดร้อนแบบคนไทยคาดหวังนะคะ เผ็ดเบา ๆ พอแก้เลี่ยนได้ มีรสมิโสะนิดหน่อย
- Shoyu Garlic คนรักกระเทียมน่าจะชอบเลยละ มีความเผ็ดนิดหน่อยของกระเทียมที่ผสมกับโชยุเค็มหวาน กินกับเนื้อนี่โอเคเลยละ
องุ่นชอบน้ำจิ้ม Shoyu Garlic เติมพริกและกระเทีมลงไปเพิ่ม อาหย่อยยยยยยยยยย สะใจ
สำหรับองุ่นแล้ว 1 เซตในวันที่หิวธรรมดาคืออิ่มดีเลย แต่ถ้าวันหิวมาก ๆ อาจจะต้องเพิ่มเนื้อไม่ก็ข้าวค่ะ
เขียน ๆ ไปก็เริ่มอยากกินอีกรอบแล้วค่า รอบหน้าจะลองสั่งเซตอื่นดูบ้างค่า
องุ่นไปสาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าวนะคะ ค้นหาสาขาอื่น ๆ ได้ที่ >> facebook: Yakiniku Like Thailand
เพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งนะคะ ร้านรับชำระเงินทั้งบัตรเครดิต เงินสด และสแกนจ่ายค่ะ